กล่าวนำและทำความเข้าใจ

กล่าวนำและทำความเข้าใจ

Blog นี้จัดทำขึ้นเนื่องจากการที่ตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและหลักการปฏิบัติตนตามหลักคำสอนอย่างถูกต้อง
เพราะในปัจจุบันคนเราเน้นการทำบุญโดยเอาความสะดวกสบายและง่ายเข้าว่า โดยบ้างครั้งอาจจะผิดหลักคำสอนจนความตั้งใจทำบุญจริงๆนั้นกลายมาเป็นบาป และบ้างครั้งอาจจะหลงผิดใช้เงินกับการทำบุญที่ผิดวิธีจนได้บาปเช่นกัน แต่เราก็สามารถทำบุญอย่างง่ายๆและถูกต้องได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องรู้หลักการปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อที่จะได้บุญจริงๆ

บทความใน Blog นี้จึงขอมุ่งเน้นหยิบยกเนื้อหาอ้างอิงจากพระไตรปิฏกเป็นหลักและบทความจากผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฏกอย่างจริงจังที่น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน การทำ Blog นี้มีเจตนาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางที่สำหรับผู้คนอาจจะพบเห็นและได้ศึกษาธรรมมากขึ้น

"การศึกษาอะไรที่ยิ่งใหญ่ อาจจะมาจากเรื่องที่เราสงสัยเล็กๆเพียงเรื่องเดียว"

***ทั้งนี้เนื้อหาที่ได้ลงไปใน Blog ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณและศึกษาจากพระไตรปิฏกควบคู่ไปด้วยเพราะอาจมีการคลาดเคลื่อนของเนื้อหา เพื่อผู้อ่านจะได้รับความรู้ที่ตรงและถูกต้องที่สุดครับ***

วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

ทำไมต้องศึกษาธรรมะ ???

ทำไมต้องศึกษาธรรมะ ???




จากบทความที่แล้วที่ได้แนะนำตัวไปก็พอจะได้รู้จักกันเพิ่มนิดหน่อยนะครับ
การที่ทำไมเราจะต้องศึกษาธรรมะและปฏิบัติตนตามคำสอนของพระพุทธเจ้านั้น มันมีคำตอบง่ายๆที่คนเรามองไม่เห็นและคิดไม่ถึงครับ

คำตอบนั้นก็คือสิ่งที่เราเขียนตอนที่เราไปสมัครหรือกรอกแบบฟอร์มต่างๆนั้นหละครับ
ว่านับถือศาสนา " พุทธ " เราพูดกันเสมอว่าเราเป็นชาว " พุทธ "
ในตอนที่ผมเริ่มที่จะศึกษาหลักธรรมใหม่ๆนั้นยอมรับตามตรงครับว่าเหมือนชีวิตมาถึงทางตัน และผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่เชื่อเรื่องหมอดู หวงจุ้ย แก้กรรม อะไรต่างๆ แต่ว่าแฟนเป็นคนที่เชื่อเรื่องนี้ครับ

แต่พอมาทำธุรกิจส่วนตัวก็เริ่มมีเรื่องพวกนี้เข้ามาเยอะมากครับ อาจจะเพราะจากที่ร้านเราขายไม่ดีเท่าร้านอื่นเขา เขาจึงแนะนำว่าทำอย่างนี้สิ อย่างนั้นสิ ดีนะ หมอนู้นดี หมอนี้ดี ก็เลยเชื่อไปตามนั้น
ในส่วนนี้แล้วแต่ความเชื่อส่วนบุคคลนะครับเพราะคนที่ทำได้ดี เขาก็ได้ดีจริงๆ เราไม่อยากไปพาดพิงถึงครับ สุดท้ายก็เป็นอย่างที่ในแนะนำตัวคือเจ๊งไปครับ

ก็เลยย้อนกลับมามองตัวเองว่าทำไมเป็นแบบนี้ สุดท้ายมีเพื่อนผมคนหนึ่งเขาค้าขายเช่นกัน ตอนแรกๆก็ลำบากครับแต่มาหลังๆเขาขายดีมาก ซึ่งเขาพึ่งและปฏิบัติตนตามพระพุทธศาสนาครับ คือ เข้าวัด ทำบุญ ทำทาน นั่งสมาธิ เจริญภาวนา และเขาก็ยังได้บอกว่าถ้าอยากจะศึกษาธรรมะจริงๆให้ศึกษาพระไตรปิฏก

ต่อมาผมจึงได้ตัดสินใจใช้เวลาว่างศึกษาดู หาคำตอบดู เพราะว่าเราไม่ต้องลงทุนอะไร เริ่มแรกจากใน internet ครับ เพราะในสมัยนี้มีกันเกือบทุกบ้าน ที่ทำงานก็มี ผมคิดว่าเอาเวลาว่างที่ทำงานตอนไม่มีงานมาศึกษาหาความรู้ในเน็ตน่าจะเกิดประโยชน์กว่านั่งไปวันๆครับ ผมพยายามหาข้อมูลจากผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฏกจริงๆ และได้พบผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฏก ผ่านเว็บที่เขาทำขึ้น และหนังสือที่เขาเขียน ซึ่งผมเองได้อ่านในเว็บเขา ทั้งกระทู้ที่คนถาม ทั้งคำตอบที่เขาตอบ ทั้งซื้อหนังสือที่เขาเขียนมาอ่าน ยิ่งอ่าน ยิ่งศึกษา ยิ่งมีคำถาม ยิ่งอ่าน ยิ่งศึกษา ยิ่งพบคำตอบ
และสุดท้ายคำตอบของคำถามที่ว่า " ทำไมต้องศึกษาธรรมะ " ที่โดนใจของผมและใช่ที่สุดสำหรับผมคือ

คนผู้นี้เขาบอกว่า " ก่อนอื่นเราต้องรู้ก่อนว่าเรานับถือศาสนาอะไร เพราะคนไทยรับวัฒนธรรมทุกชนชาติ ไม่ว่าจะไหว้เจ้า แก้กรรม หรืออะไรต่างๆนาๆ ถ้าคำตอบของเราคือเรานับถือพระพุทธศาสนา แน่นอนพระศาสดาก็คือองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าองค์ปัจจุบันพระสมณโคดม ดังนั้นถ้าเรานับถือศาสนาพุทธเราก็ควรจะศึกษาและปฏิบัติตนตามคำสอนของศาสดาของศาสนาของเรา "

นี้หละครับคำตอบที่โดนใจผมมากๆเหมือนเส้นผมบังภูเขา อาจจะมีผิดเพี้ยนบ้างนะครับแต่เนื้อหาที่เขาบอกความหมายประมาณนี้ครับ

และพวกคุณละครับคิดยังไงบ้าง?

ตอนนี้ผมเริ่มศึกษาจริงจังเรื่อยๆยังไม่ถึง 1 ปีครับ แม้หนี้สินผมจะไม่ได้หายวับไปกับตา แม้ว่าหนี้สินมันอาจจะลดลงไปน้อย แต่สิ่งที่กังวลในจิตใจผมที่ทำให้ผมคิดมาก จิตใจขุ่นมัวนั้นหาบวับไปเกือบหมดเลยทีเดียวครับ และอีก 2 อย่างที่ผมดีใจมากๆครับ คือ
1.แฟนผมเลิกเชื่อเรื่องดูดวง ดูหมอดูครับ เพราะแต่ก่อนทะเลาะกันเรื่องนี้เกือบทุกครั้งเลยครับ
2.แม่ผมดูท่านจะมีความสุขมากที่ลูกชายขอไปทำบุญทุกวันพระครับทั้งๆที่นานทีผมจะเข้าวัดทีครับ

ถ้าการทำบุญและศึกษาธรรมะที่ผมทำ ได้แสดงผลบุญให้เห็นถึง 2 ขอนี้ผมก็ดีใจและมีความสุขมากแล้วครับที่เห็นแม่ผมมีความสุข

ถ้าท่านไหนมีปัญหาอย่างผมอยู่ลองดูได้นะครับไม่ได้เสียหายอะไรครับ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น