คิดแบบเหตุผล
ปฏิเสธไม่ได้จริงๆครับว่าเมืองพุทธอย่างประเทศเรานั้นมีผู้ยึดติดกับสิ่งต่างๆที่เรียกว่า เครื่องรางของขลัง หรือการสักยันต์ ลงของต่างๆ มากมาย ซึ่งของเหล่านี้อยู่นอกศาสนาพุทธเราครับ แต่จากที่ได้ศึกษาประวัติศาสตร์เรามาก็ไม่แปลกที่จะมีสิ่งเหล่านี้เข้ามาปนในศาสนาเราครับ
โดยทั่วไปแล้วคนเหล่านั้นมีความเชื่อว่าจะช่วยให้ตนเองไม่เจ็บ ไม่ป่วย หนังเหนียว อยู่ยงคงกระพัน ฟังแทงไม่เข้า หรือเพื่อศิริมงคลครับ
แต่ถ้าเราได้ศึกษาพระธรรมจะทราบว่า
พระพุทธเจ้า ที่เป็นเอกของโลกก็ยังมีการอาพาธ หรือมีการบาดเจ็บพระโลหิตห้อ
พระสารีบุตร ผู้ที่เป็นถึงอัครสาวกเบื้องขวาก็ยังอาพาธจนมรณภาพ
พระโมคคัลลานะ ผู้ที่เป็นอัครสาวกเบื้องซ้ายที่เป็นผู้มีฤทธิ์มากก็ถูกคนทุบจนมรณภาพไป
ทุกวันนี้คนอ้างการใช้เหตุผลในการเชื่อและตัดสินใจ อยากให้ลองใช้เหตุผลกับเรื่องนี้ดูนะครับว่าคิดเห็นกันเช่นไรบ้างครับ
พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ - หน้าที่ 293
พระเทวทัตทำโลหิตุปบาท
[๓๗๒] สมัยนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าเสด็จจงกรมอยู่ ณ เขาคิชฌ-
กูฏบรรพต ครั้งนั้น พระเทวทัตขึ้นสู่คิชฌกูฏบรรพต แล้วกลิ้งศิลากอันใหญ่
ด้วยหมายใจว่า จักปลงพระชนม์พระสมณโคดมด้วยศิลานี้ ยอดบรรพตทั้งสอง
น้อมมารับศิลานั้นไว้ สะเก็ดกระเด็นจากศิลานั้นต้องพระบาทของพระผู้มีพระ-
ภาคเจ้า ทำพระโลหิตให้ห้อขึ้นแล้วขณะนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแหงนขึ้น
ไปได้ตรัสกะพระเทวทัตว่า ดูก่อนโมฆบุรุษ เธอสั่งสมบาปมิใช่บุญไว้มากนัก
เพราะมีจิตคิดประทุษร้าย มีจิตคิดฆ่ายังโลหิตของตถาคตให้ห้อขึ้น ลำดับนั้น
พระผู้มีพระภาคเจ้ารับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย นี้จัดเป็น
อนันตริยกรรมข้อที่ ๑ ที่เทวทัตสั่งสมแล้ว เพราะเธอ มีจิตคิดประทุษร้าย
มีจิตคิดฆ่า ทำโลหิตของตถาคตให้ห้อขึ้น
.
.
.
********************************************
พระสุตตันตปิฎก สังยุตตนิกาย มหาวารวรรค เล่ม ๕ ภาค ๑ - หน้าที่ 423
๓. จุนทสูตร
ว่าด้วยการปรินิพพานของพระสารีบุตร
[๗๓๓] สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเจ้าประทับอยู่ ณ พระวิหาร
เชตวัน อารามของท่านอนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้กรุงสาวัตถี. ก็ในสมัยนั้น ท่าน
พระสารีบุตรอยู่ ณ บ้านนาลกคาม ในแคว้นมคธ อาพาธ เป็นไข้หนัก
ได้รับทุกขเวทนา. สามเณรจุนทะเป็นอุปัฏฐากของท่าน. ครั้งนั้น ท่านพระ-
สารีบุตรปรินิพพานด้วยอาพาธนั่นแหละ.
.
.
.
********************************************
พระสุตตันตปิฎก ขุททกนิกาย คาถาธรรมบท เล่ม ๑ ภาค ๒ ตอน ๓ - หน้าที่ 96
พระเถระถูกพวกโจรทุบ
พระเถระ(พระมหาโมคคัลลานเถระ) ทราบความที่ตนถูกพวกโจรเหล่านั้นล้อมแล้ว จึงออก
ไปทางช่องลูกกุญแจหลีกไปเสีย. ในวันนั้น พวกโจรนั้น มิได้เห็นพระ-
เถระ. วันรุ่งขึ้น จึงไปล้อม (อีก).
พระเถระทราบแล้ว ก็ทำลายมณฑลช่อฟ้าเหาะไปสู่อากาศ. เมื่อ
เป็นเช่นนี้ ในเดือนแรกก็ดี ในเดือนท่ามกลางก็ดี พวกเดียรถีย์นั้น ก็
มิได้อาจจับพระเถระได้. แต่เมื่อมาถึงเดือนสุดท้าย. พระเถระทราบภาวะ
คือการชักมาแห่งกรรมอันตนทำไว้เเล้ว จึงมิได้หลบเลี่ยง.
พวกโจรไปจับพระเถระได้แล้ว ทุบกระดูกทั้งหลายของท่านให้
(แตกยับเป็นชิ้นน้อย) มีประมาณเท่าเมล็ดข้าวสารหัก. ทีนั้น พวกโจร
เหวี่ยงท่านไปที่หลังพุ่มไม้เเห่งหนึ่ง ด้วยสำคัญว่า ' ตายแล้ว.' ก็หลีกไป.
.
.
.
********************************************
กล่าวนำและทำความเข้าใจ
กล่าวนำและทำความเข้าใจ
Blog นี้จัดทำขึ้นเนื่องจากการที่ตั้งใจศึกษาพระธรรมคำสอนของพระพุทธเจ้าและหลักการปฏิบัติตนตามหลักคำสอนอย่างถูกต้อง
เพราะในปัจจุบันคนเราเน้นการทำบุญโดยเอาความสะดวกสบายและง่ายเข้าว่า โดยบ้างครั้งอาจจะผิดหลักคำสอนจนความตั้งใจทำบุญจริงๆนั้นกลายมาเป็นบาป และบ้างครั้งอาจจะหลงผิดใช้เงินกับการทำบุญที่ผิดวิธีจนได้บาปเช่นกัน แต่เราก็สามารถทำบุญอย่างง่ายๆและถูกต้องได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงต้องรู้หลักการปฏิบัติที่ถูกต้องเพื่อที่จะได้บุญจริงๆ
บทความใน Blog นี้จึงขอมุ่งเน้นหยิบยกเนื้อหาอ้างอิงจากพระไตรปิฏกเป็นหลักและบทความจากผู้ที่ศึกษาพระไตรปิฏกอย่างจริงจังที่น่าจะเป็นประโยชน์กับผู้อ่าน การทำ Blog นี้มีเจตนาเพื่อเป็นอีกหนึ่งทางที่สำหรับผู้คนอาจจะพบเห็นและได้ศึกษาธรรมมากขึ้น
"การศึกษาอะไรที่ยิ่งใหญ่ อาจจะมาจากเรื่องที่เราสงสัยเล็กๆเพียงเรื่องเดียว"
***ทั้งนี้เนื้อหาที่ได้ลงไปใน Blog ผู้อ่านควรใช้วิจารณญาณและศึกษาจากพระไตรปิฏกควบคู่ไปด้วยเพราะอาจมีการคลาดเคลื่อนของเนื้อหา เพื่อผู้อ่านจะได้รับความรู้ที่ตรงและถูกต้องที่สุดครับ***
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น